บอกเล่าส่งต่อ ไปงานบาร์แคมป์บางเขนกันเถอะ

บอกเล่าส่งต่อ ไปงานบาร์แคมป์บางเขนกันเถอะ

ส่งการบ้านครับ เป็นธรรมเนียมกันว่าเมื่อไปงานบาร์แคมป์มาแล้วก็ต้องเขียนบล็อกเล่าต่อ ผมไปมาปีนี้เป็นปีที่ 4 แล้ว พึ่งได้มาเขียนบล็อกปกติขี้เกียจเขียน... ส่งการบ้านสายไปประมาณสามปีกับอีกครึ่งเดือน...

บาร์แคมป์ คืออะไร

บาร์แคมป์ คือ งานแลกเปลี่ยนความรู้ แบบไม่มีคนพูดหรือคนฟังแน่ชัด ทุกคนเป็นเพียงผู้ร่วมจัดงาน ไม่มีตารางเรื่องหรือหัวข้อพูดล่วงหน้า ทุกอย่างถูกจัดขึ้นมาเมื่องานเริ่ม ฟังเหมือนพิลึกใช่ไหม? ใช่มันพิลึกมาก (ฮา)

ทุกคนที่เข้ามาร่วมงานสามารถพูดได้หมด ไม่จำกัดสิทธิ์ ไม่จำกัดเรื่อง หากใครอยากพูดอะไรก็เสนอขึ้นมาแล้วนำไปแปะบนบอร์ดหรืออะไรที่ทางงานนั้น ๆ เสนอไว้ ส่วนใครอยากฟังอะไรก็ไปฟังได้ตามที่ต้องการ

ตามที่กล่าวมา ดังนั้นตารางงาน หัวข้อนำเสนอ ทุกอย่างจะถูกกำหนดขึ้นของวันจัดงาน ไม่มีการบอกก่อนล่วงหน้าเลย

ถ้าจากกรณีของบาร์แคมป์บางเขน จะมีกระดานหรือบอร์ดไว้ให้ผู้อยากแชร์แบ่งปันมาแปะหัวข้อที่ตนอยากพูดที่บอร์ด ส่วนใหญ่จะหนักไปทางเทคโนโลยีหรือ IT แต่ก็มีพวกเรื่องศาสนา เพลง เกม หนัง หรือแม้แต่มิติคู่ขนานเหมือนกัน พูดอีกนัยคือ อยากพูดอะไรก็พูดไปเหอะ

เนื่องจากห้องของ IUP มหาลัยเกษตรศาสตร์มีจำกัด หัวข้อต่าง ๆ จึงจะถูกโหวต เพื่อจัดห้องให้ ห้องใหญ่ห้องเล็ก หัวข้อไหนได้โหวตน้อยก็อาจได้พูดช้าหน่อย หรืออาจไม่ได้พูดเลย โดยคนโหวตก็คือผู้ร่วมงานทุกคน ซึ่งปีหลัง ๆ (ปีแรก ๆ ไปไม่ทัน...) ก็จะแจกสติ๊กเกอร์ให้ ชอบเรื่องไหนก็แปะ ๆ ไป

บาร์แคมป์บางเขน

เรื่องการโหวตของบาร์แคมป์บางเขนก็อย่างที่เล่าไปหัวข้อก่อนหน้านี้ แต่สำหรับผมและอาจคนอื่นด้วย บาร์แคมป์บางเขนมีจุดสนุกคือมีปาร์ตี้หลังจบงาน เปิดโอกาสได้รู้จักกับคนใหม่ ๆ และสำคัญสุดคือ ของกินฟรี!!

งั้นมาเล่าเรื่องราวของผมเลยดีกว่าสำหรับการได้ไปบาร์แคมป์บางเขนครั้งที่สี่ในชีวิต

ผมมาแต่เช้า พึ่งเปิดลงทะเบียนไปได้ไม่นาน ลงทะเบียนก็ได้ป้ายไว้เขียนชื่อ แจกสติ๊กเกอร์ไว้โหวต เสื้อฟรี (สำคัญมาก) เป็นเสื้อธีมของงาน ทุกคนได้เหมือนกันหมด ปกติคือจะให้ใส่เลย แต่ปีนี้เสื้อไม่ค่อยดี ผมใส่แล้วร้อนมาก เลยไม่ใส่

เปิดงานมาอย่างที่บอก ใครอยากพูดอะไรก็แปะเรื่องไว้ก่อนเลย อย่างปีนี้ให้แปะที่บอร์ด ส่วนใครอยากฟังอะไรก็โหวต ๆ ตามใจชอบ โหวตกี่เรื่องก็ได้ โดยเซสชั่นนึงประมาณ 25 นาที

ตัวอย่างการโหวตและหัวข้อพูด เห็นไหม เรื่องอย่าง Overwatch ยังพูดได้เลย แถมมีคนฟังพอสมควรด้วย (ฮา)

พอโหวตเสร็จก็จะเริ่มเข้าพิธีเปิด เป็นอีกหนึ่งความพีคของงานเช่นกัน เพราะช่วงพิธีเปิดจะมีการสตรีมทวิตเตอร์ที่ติดแฮชแท็กของงาน โดยปีนี้ใช้ #bcbk7 ซึ่งก็ทวิตอะไรก็ได้ ของผมก็ขึ้นไปหลายอันเหมือนกัน เป็นช่วงที่เสียงหัวเราะลั่นห้อง

ช่วงนี้ของงานพิธีกรก็จะสุ่มทวิตขึ้นมาเพื่อเรียกไปบนเวทีเพื่อแจกของรางวัล สองปีก่อนผมได้ของรางวัลมาเพราะทวิตถูกใจพิธีกร ตอนนั้นทวิตประมาณว่า "ประยุทธ์อยู่ไหน" (ฮา) เป็นช่วงพึ่งรัฐประหารขอเกาะกระแสหน่อย

ส่วนปีนี้... ผมก็ได้ขึ้นอีก (ฮา) โชคดีจริง ๆ ได้เสื้อฟรีเพิ่มมาอีกตัวนึง

พิธีเปิดจบไป ออกมาทางทีมงานของบาร์แคมป์บางเขนซึ่งก็คือนักศึกษาเกษตรศาสตร์นี่แหละ ก็ได้รันตารางหัวข้อที่ถูกโหวตไว้แล้ว ทีนี้ใครอยากฟังอันไหนก็ไปตามหมายเลขห้องเลย

เซสชั่นแรกเลยของพี่ @nunimadao พูดเรื่อง "ประสบการณ์การไปฝึกงานที่ญี่ปุ่น" ก็บอกเล่าประสบการณ์การใช้ชีวิต ตั้งแต่การหุงข้าวยันการเดินทางไปทำงานและบรรยากาศร้านอาหารในมหาลัยกับเมนูสุดเด็ดอย่าง "แกงกะหรี่กล้วย"

ตอนแรกผมก็จะเปิดเซสชั่นเรื่องไปแข่งที่ญี่ปุ่นแต่เห็นซ้ำกับพี่นุนิ เลยไม่พูดดีกว่า ของผมไปแค่แปปเดียว

ต่อมาคือเรื่อง "ปรัชญาของปัญญาประดิษฐ์" ของคุณ @justmota เนื้อเรื่องไม่ได้เกี่ยวกับเทคโนโลยีหรือเทคนิคการสร้างปัญญาประดิษฐ์ deep learning พวกนั้น แต่เกี่ยวกับปรัชญาต่าง ๆ อะไรที่แบ่งระหว่าง AI กับ มนุษย์ หาก AI มีปัญญาเท่าเรา หรือหากเรากับ AI ฉลาดเท่ากันแล้วเราละเรียก AI ได้ไหม เป็นต้น เป็นเซสชั่นที่ผมชอบมากต้น ๆ เลย

ต่อมาเป็นเซสชั่นเฮฮาของ @ds41744 กับเรื่อง "How to มีแฟนก่อนเรียนจบ" เรียกเสียงหัวเราะได้ดี ชื่อเซสชั่นคงไม่ต้องเล่าอะไรแล้ว (ฮา) หลังฟังจบมีคนเอาไปใช้จนได้แฟนแล้วด้วย เซสชั่นนี้คนฟังเยอะพอสมควร แถมมีเทพ ๆ โค้ดดิ้งมาฟังหลายคนอย่าง @awkwin และ @dtinth

จบเซสชั่นครึ่งเช้าก็เบรกข้าวเที่ยวครับ ข้าวนี่ทางบาร์แคมป์บางเขนก็แจกฟรีอีก ใครบอกของฟรรีไม่มีในโลก ให้เขามาบาร์แคมป์เลยนะครับ มีจริงและเยอะด้วย (ฮา)

กลับเข้าเซสชั่นต่อในช่วงบ่าย เรื่องต่อมาที่ฟังคือ "บุกป่าฝ่าดง if" โดยคุณ Somkiat.cc ใครเขียนโค้ด if เป็นชั้น ๆ ขนาดนี้ก็แก้ด้วยนะครับ ปวดหัว สำคัญสุดคือ ควรมี test หากเมื่อไหร่โค้ดเละเราก็ refactor โค้ดใหม่ ไม่ต้องกลัวว่าเขียนใหม่แล้วพังแล้วเราไม่รู้ เพราะเรามีเทสไงละ!

เรื่องต่อมาพีคไม่ซ้ำใครครับ "จักรวาลคู่ขนานในชีวิตจริง (สาเหตุที่ 20 ปี โคนันไม่โตสักที)" โดยเซเลปอย่าง @thanyakij มาฟังเซสชั่นนี้ควรใช้คำพูดที่ว่า "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" เพราะเป็นเซสชั่นที่คิดตามแทบไม่ทัน คำพูดนึงที่ผมชอบ พูดประมาณคือ "ในตลับเซฟเกมแต่ละคนก็เหมือนเป็นหนึ่งมิติจักรวาล ดังนั้นในโลกนี้ก็มีมิติคู่ขนานเป็นแสน ๆ ล้าน ๆ" ฟังแล้วอึ้ง...

โดยสรุปตามที่ผมเข้าใจในเซสชั่นมิติคู่ขนานคือ ความจริงแล้วเนื้อเรื่องโคนันไม่ได้เรียงเป็น timeline ไหลไปเรื่อย ๆ แต่สลับไปมาแต่ละมิติคู่ขนาน เนื้อเรื่องมันเลยดูแปลก ๆ

ต่อมาคือเซสชั่น "เรียนพาสาง่ายนิดเดียว" ของพี่ @onhz มาทีหลังบวกกับรำคาญคนที่นั่งข้าง ๆ ครับ พูดขัด ทำเสียงดังน่ารำคาญเลยฟังจับใจความไม่ได้ มัวแต่ก่นด่าในใจครับ ขอโทษที...

เซสชั่นต่อมาคือ "Evolutionary of Dev Culture" โดยคุณ @tanapoln จากบริษัท wongnai สารภาพเลยครับ อันนี้ฟังแล้วลืมแล้วว่าพูดเรื่องอะไร แต่จำได้แค่ว่าตอนเขาอวดบรรยากาศการทำงานใน wongnai น่าเข้าไปทำงานมาก บริษัทดูสบาย ๆ ของกินเยอะดี (ฮา)

ต่อมาก็เข้าช่วงพักเบรกบ่ายครับ ไม่มีอะไรนอกจากขนมกับน้ำแจกฟรี เขาให้หยิบแค่ชิ้นเดียว ผมไม่รู้ หยิบมาสอง ขอโทษทีครับ... แต่ขนมอร่อยมากครับ อยากหยิบอีกหลาย ๆ ชิ้นแต่หน้าไม่ด้านพอ...

ส่วนอันนี้เรื่อง "ทดลองสร้างงาน "ศิลปะ" ด้วยแรงบันดาลใจจาก #เล่าปจก.แสดงงานที่JAPAN AI" โดยคุณ @phoneee และ KD อันนี้ขอโทษจริง ๆ ครับสรุปให้ไม่ได้ ฟังแล้วงงมากครับ อาจจะเพราะไม่ได้เรียนศิลปะมาเท่าไหร่ แต่ที่เข้าใจคือ เขาใช้แนวคิดของปัญญาประดิษฐ์หรือพวก deep learning ไม่ก็ neural network มาสร้างชิ้นงานศิลปะ

มาต่อกันที่เซสชั่นไอทีเหมือนเดิม กับเรื่อง "Contributing to Open Source" โดยคุณ @Kanitkornk เซสชั่นดี ๆ ชวนทำงานสังคมแบบไม่ต้องไปตากแดดกับการมาช่วยพัฒนา open source ที่เปิดอยู่ใน github ฟังแล้วรู้สึกอยากกลับไป fork โค้ดชาวบ้านมาช่วยแก้เลยครับ

นี่เคยช่วยแก้บั๊กให้แต่ปลั๊กอินของ Sublime Text ตัวนึง ตอนนั้นภูมิใจมากเขารับ Pull Request (ฮา)

เซสชั่นสุดท้าย ขอโทษครับอันนี้ลืมถ่ายภาพ ฟังเพลิน เป็นเซสชั่นมิตรสหายชื่อ "ใช้ password manager" โดยท่าน @awkwin พูดเรื่องการใช้โปรแกรมช่วยจำพาสเวิร์ด เพราะรหัสผ่านที่ดีไม่ควรจำได้ รวมถึงเราด้วย ดังนั้นให้โปรแกรมจำเถอะ พีคสุดก็คือประโยคที่ว่า

หากโดนทหารจับไปขอรหัสผ่านเฟส ก็บอกทหาร ผมจำไม่ได้ ก็ผมจำไม่ได้จริง ๆ อะ

จังหวะนั้นขำกันทั้งห้องเลยครับ (ฮา) ดังนั้น อย่าลืมกลับไปลองหาโปรแกรมจำรหัสผ่านดี ๆ มาใช้สักตัวแล้วเลิกตั้งรหัสผ่านเองนะครับ สุ่มรหัสผ่านเลย สุ่มให้เราจำไม่ได้ (ฮา)

เซสชั่นทั้งหมดก็จบเพียงเท่านี้ พร้อมได้รับความรู้ดี ๆ กลับไปมากมาย แต่อย่าพึ่ง! เพราะงานยังไม่จบครับ... ได้เวลาของพิซซ่าฟรี!!!

คุณเห็นกองพิซซ่านั้นไหม กับ KFC ด้านล่าง เขาแจกฟรีให้ทุกคนที่มาร่วมงานครับ โต๊ะละชุด หนึ่งโต๊ะได้ KFC กับพิซซ่าอย่างละชุด อร่อยอิ่มไปเลย

พิซซ่าฟรี!!!!

ก็ตั้งกลุ่มกินของฟรีกันอย่างที่เห็นครับ บางคนมาแต่ไม่ค่อยสนิทกับใครก็ลองนั่ง ๆ หาเพื่อนคุย ได้รู้จักเพื่อนใหม่ดีครับ

ผมมางานบาร์แคมป์ครั้งแรกตอน BCBK4 ก็ได้มานั่งกินข้าวกับคนที่ไม่ค่อยสนิท แต่ก็ได้รู้จักรู้หน้าหลาย ๆ คนจนทุกวันนี้ก็ถือว่าสนิทขึ้นมาเยอะพอสมควร แนะนำครับ หากใครอยากไปลองเปิดโลกเรียนรู้เรื่องใหม่ ๆ รู้จักเพื่อนใหม่ ๆ ก็ลองไปดู ได้อะไรกลับมาเยอะเหมือนกัน รวมถึงอาหารและเสื้อฟรี!

ผมชอบพูดเล่น ๆ กับเพื่อนที่ไปงานบาร์แคมป์บางเขนว่า เหมือนเป็นงานรวมญาติเลย (ฮา)

ข้อเสนอแนะสำหรับผู้จัดงาน

  • ปีหน้า ๆ อยากให้ลดเสียงเพลงลงหน่อยจะดีมาก เพราะตอนปาร์ตี้คุยกับเพื่อนแทบไม่รู้เรื่องเสียง ต้องคุยกันเสียงดังเจ็บคอครับ...
  • เสื้อปีนี้ไม่ค่อยดีเลย สกรีนทึบแล้วใส่แล้วร้อนมาก แถมไซส์เล็กกว่าความเป็นจริงด้วย เลยไม่ได้ใส่
  • ไม่น่าเปลี่ยนแฮชแท็กเลยครับ ปกติเป็น #bcbk ปีนี้เป็น #bcbk7 สับสนพอสมควร
  • ขนมอร่อยดีครับ ชอบอันนี้!

สุดท้ายก็ขอฝากไว้กับโควตอันนึงซึ่งได้มาจากเว็บของ Barcamp.org ครับ

When you come, be prepared to share with barcampers.

When you leave, be prepared to share it with the world.

ปีหน้าไปอีกแน่นอนครับ ไปจนกว่าจะเห็นใครสักคนโตจนพาลูกมาเดินบาร์แคมป์บางเขนด้วยกันครับ (ฮา)