ทำงานได้มากกว่าเดิม ในเวลาเท่ากันด้วย Pomodoro

เนิ่นนานมาแล้วมีตำนานกล่าวว่า ยิ่งทำงานนานแปลว่ายิ่งขยัน เพราะยิ่งทำงานนานก็แปลว่ายิ่งทำงานได้เยอะ แต่ตามความจริงมนุษย์เราไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งใดนาน ๆ มากได้ อย่างมากสุดก็ราว ๆ 2 ชั่วโมง หลังจากนั้นร่างกายจะเริ่มเบลอ และต้องการพักผ่อน ทำให้ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตามสมควร เพราะฉะนั้น การทำงานติดต่อกันเป็นเวลานานไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเท่าที่ควร (ยกเว้นแต่ต้องการหลอกหัวหน้างานว่าเรานั่งทำงานติดโต๊ะตลอด)

...แล้ว ทำยังไงถึงจะเป็นวิธีที่ดีในการนั่งทำงานนาน ๆ และคงประสิทธิภาพในการทำงานอย่างสม่ำเสมอ ครับ วันนี้ TV Direct ขอนำเสนอเทคนิคการจัดการเวลาแบบ Pomodoro เป็นสินค้าที่คุณต้องชอบแน่นอน

มาเริ่มทำความรู้จัก Pomodoro กัน

Pomodoro คืออะไร

Pomodoro เป็นชื่อเรียกเทคนิคการบริหารเวลา ถูกคิดขึ้นมาโดย Francesco Cirillo สมัยเรียนหนังสือ โดยพี่แกบอกว่า สมัยเรียนหนังสือรู้สึกว่ากลับบ้านมาเหมือนไม่ได้อะไรเลยกับการเรียน เพราะถูกรบกวนและถูกดึงความสนใจจากสภาพแวดล้อมรอบตัวบ่อยครั้ง พี่แกจึงคิดว่า จะสามารถเรียนแบบไม่วอกแวกสัก 10 นาทีแบบ เรียนจริง ๆ ไม่สนอย่างอื่นรอบตัวเลยได้ไหม พี่แกเลยพยายามหาอุปกรณณ์ที่จะเช็คว่าพี่แกเรียนได้ 10 นาทีจริง ๆ จึงไปพบกับอุปกรณ์ในห้องครัว เป็นนาฬิกาจับเวลาทรงมะเขือเทศ เรียกกันว่า Pomodoro (มาจากภาษาอิตาเลี่ยนแปลว่ามะเขือเทศ) เลยกลายเป็นที่มาของการใช้คำนี้นั่นเอง

เทคนิคของ Pomodoro คือ การทำงานต่อเนื่องยาว 25 นาที และพักช่วงสั้นก่อนกลับไปทำงานต่อ ซึ่งจะเรียกหนึ่งรอบนี้ว่า Pomodoro

สาเหตุว่าทำไมต้องเป็น 25 นาที เป็นเพราะมีผลการศึกษารับรองว่าช่วง 25 นาทีเป็นช่วงเวลาที่เราจะมีสมาธิกับงานได้ดีที่สุด หลังจากนั้นสมองจะเริ่มเสียสมาธิและไม่สามารถจดจ่อกับงานได้

มาลอง Pomodoro แบบง่าย ๆ

  1. วางแผนว่าจะทำอะไร อย่างไร และพยายามแบ่งงานใหญ่ ๆ เป็นส่วนย่อย ๆ เช่นเราต้องเขียนบทความยาวห้าหน้ากระดาษ เราอาจจะแบ่งว่าหนึ่ง Pomodoro เราจะเขียนประมาณ 3 ย่อหน้า
  2. เริ่มจับเวลาทำงาน 25 นาที ซึ่งช่วงเวลานี้ต้องจดจ่อกับงานอย่างเดียวไม่สนใจอย่างอื่น
  3. ครบ 25 นาทีให้พักเบรกช่วงสั้น ๆ ประมาณ 5 นาที
  4. ทำอย่างนี้ไปจนครบ 4 รอบ และเริ่มพักยาวประมาณ 15 นาที แล้วจึงค่อยกลับไปทำข้อ 1 ใหม่

ข้อแนะนำสำหรับแต่ละช่วงเวลา

ทำงาน

ในช่วง 25 นาทีนี้ข้อสำคัญ คือ ต้องพยายามจดจ่อกับงาน ไม่วอกแวก อย่างผมจะฟังเพลงไปด้วย เพราะตัดสิ่งรบกวนภายนอกได้ดี ระหว่างทำงานต้องห้ามหยิบโทรศัพท์ หรือนั่งเหม่อว่าเย็นนี้จะกินอะไรดีเลย ง่าย ๆ คือมีสมาธิกับงานให้ได้มากที่สุด

พักเบรก

ช่วงพักเบรกคือช่วงละสมองออกจากงาน ให้สมองพักเบรกผ่อนคลาย พักร่างกายเตรียมพร้อมทำงานรอบต่อไป ซึ่งในช่วงพักก็ไม่ได้หมายความว่าจะไปนอนเล่นเฟสบุ้คหรืออะไรอย่างนั้น ช่วงพักก็มีสิ่งที่ควรทำไม่ควรทำเป็นข้อแนะนำตามนี้

ข้อไม่ควรทำ

  • กลับไปนั่งคิดเรื่องงานต่อว่าจะทำอะไรต่อดี
  • เช็คเฟสบุ้ค ทวิตเตอร์ หรือเล่นมือถือทั้งหลาย
  • จ้องหน้าจอมือถือ โทรทัศน์

ควรทำอะไร

  • หลับตาพักผ่อนให้สายตาได้หยุดพัก
  • มองดูวิวนอกหน้าต่างไกล ๆ เป็นการบริหารสายตาไม่ให้สายตาติดจอหรือสั้นง่ายจากการมองวัตถุใกล้ตัวนาน ๆ
  • ปล่อยวางความคิด อย่าไปคิดเรื่องที่เครียด เป็นการคลายสมองที่ดีอีกวิธีหนึ่ง แล้วแต่บุคคลครับอันนี้
  • ลุกออกมายืดเส้นยืดสาย เดินไปกินน้ำ เข้าห้องน้ำ อย่าอยู่กับที่ สำคัญอย่างยิ่งสำหรับพนักงานออฟฟิศ ป้องกันโรค Office Syndrome

พยายามควบคุมเวลา

ขณะใช้ Pomodoro ควรควบคุมเวลาให้ดี ห้ามใช้นิสัย "อีกแปปเดียวละกัน" เพื่อทำงานต่อให้เสร็จ หรือพักเบรกเพิ่ม เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพของ Pomodoro ลดต่ำลงและทำงานได้น้อยลง

แต่ก็ไม่ควรจ้องนาฬิกามากไปเพื่อเฝ้าว่าครบ 25 นาทีหรือยัง หรือหมดเวลาพักแล้วไหมเพราะจะทำให้เสียสมาธิในการทำงาน วิธีที่แนะนำคือหานาฬิกาจับเวลา หรือในสมัยนี้ที่ทุกคนมีสมาร์ทโฟนกันจำนวนมาก ก็มีแอพหรือเว็บรองรับการทำงานด้วย Pomodoro จำนวนมากเหมือนกัน ผมเอามาบางส่วนสำหรับแอพและเว็บไซต์สำหรับจัดการเวลา ตามลิงค์ด้านล่างนี้เลย

สำหรับเว็บไซต์

สำหรับ Android

สำหรับ iOS

รีวิวจากการใช้งานจริงส่วนตัว

ความจริงรู้จักเทคนิคนี้มาประมาณปีกว่าแล้ว เพราะอาจารย์ในคณะแนะนำระหว่างสอน เลยสนใจและหาข้อมูลเพิ่มเติม ปกติผมจะใช้ Pomodoro เวลาทำงานโปรเจ็กต์ หรืออ่านหนังสือ แต่ตอนนี้ต้องมาฝึกงานด้วย เลยนำ Pomodoro มาใช้งานด้วย เพราะต้องจ้องหน้าจอคอมนาน ๆ ทำให้ล้าและมีอาการปวดหัว

ปกติถ้าไม่ใช้ Pomodoro แล้วทำงานติดต่อกันยาว ๆ จะได้ประสิทธิภาพดีในตอนช่วงเช้า เพราะร่างกายยังมีพลังงานเหลือเฟือ ไม่ล้า แต่เข้าช่วงบ่ายจะเริ่มล้า มึน ๆ ไม่ค่อยอยากทำอะไร ทั้งอ่านหนังสือ หรือทำงาน แต่หลังจากลองมาใช้ Pomodoro ก็กลายเป็นสามารถทำงานต่อได้ทั้งวันถึงเย็นโดยไม่ปวดหัวเลย และสมองจะสดชื่นตลอด ไม่ค่อยล้ามากในตอนบ่าย (ตอนเขียนบทความนี้อยู่ก็ใช้ Pomodoro อยู่)

โดยรวมแล้วข้อดีของ Pomodoro ไม่ได้มีแค่เรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ทำงานได้ตลอดทั้งวันอย่างเดียว แต่ยังช่วยเรื่องสุขภาพ ป้องกัน Office syndrome จากการนั่งทำงานหน้าโต๊ะนาน ๆ ลดอาการล้าของสายตาและอาการปวดหัวสำหรับคนที่ต้องทำงานหน้าคอมด้วย

ของแถม มารู้จัก Reverse Pomodoro

อันนี้ผมได้มาตอนหาข้อมูล Pomodoro โดยไปอ่านเจอใน medium (Multiply Your Productivity with Pomodoro ลิงค์อยู่ด้านล่าง)

ปกติเราจะใช้ Pomodoro ในเวลาทำงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่เขาคนนี้ได้ลองเอามาปรับใช้กับการพักผ่อน โดยแทนที่ 25 นาทีทำงานแล้วพักเบรก 5 นาที ก็ทำกลับกันโดยพักหรือทำเรื่องไร้สาระ 25 นาที อาจจะนอนเล่น อ่านการ์ตูน เล่นเกม วิ่งเล่นหรืออะไรก็ได้ และมาทำเรื่องมีประโยชน์(ที่ไม่ใช่งานใหญ่) 5 นาที อาจจะเช็คอีเมล์นิดหน่อย เช็คโนติเฟสบุ้ค ซึ่งวิธีนี้อาจจะช่วยให้วันสบาย ๆ แถมฝนตกที่อาจทำให้คุณขี้เกียจไปทั้งวันดูพอมีสาระขึ้นมาบ้าง

จบละ

สรุปก็คือ Pomodoro จะทำให้ตัวคุณไม่ล้าในการทำงานติดต่อกันนาน ๆ ช่วยให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นมากกว่าการทำงานติดต่อกันยาว ๆ แบบไม่พักเลย แต่อย่างไรก็ตามมวิธีนี้ก็อาจไม่เหมาะกับคนที่อยู่ในสถานการณ์ไฟลนก้น Deadline พรุ่งนี้แล้วงานยังไม่ได้เริ่มเลย

หากใครสนใจก็ลองใช้วิธีนี้สักวันสองวันก่อน แล้วคิดดูว่าชอบไหมก็ค่อยทำต่อก็ได้ (Pomodoro ใช้แล้วไม่เสียตัง) ซึ่งผมก็แนะนำมากสำหรับพนักงานออฟฟิศ โปรแกรมเมอร์ ใครก็ตามที่ทำงานหน้าคอม เพราะช่วยเรื่องสุขภาพได้ดีมาก

อ้างอิง

เครดิตรูปภาพ