มาทำชีสเค้กกินเล่นที่หอโดยไม่ต้องใช้เตาอบกันเถอะ

เดิมทีชอบกินชีสเค้กเป็นว่าเล่นอยู่แล้ว เห็นร้านไหนขายก็รีบซื้อตลอด จนตอนนี้คิดว่าร้านที่หาง่ายทั่วไปและอร่อยที่สุดไม่แพงด้วย คือ ชีสเค้กของ Amor ซึ่งกลายมาเป็นว่านึกสนุกอยากลองทำกินเองบ้าง แต่ปัญหาของเด็กหอทั่วไปอย่างผมก็คือ หอไม่มีครัวหรือเตาอบ ฉะนั้นการทำอาหารอบ ๆ แบบเค้กนี่แทบเป็นไปไม่ได้เลย

แต่คำว่าเป็นไปไม่ได้น่าจะต้องเก็บไว้ใช้คราวหน้า นั้นเพราะผมไปหามาว่าชีสเค้กนั้นก็มีสูตรแบบไม่ต้องใช้เตาอบเหมือนกันนะ แต่ใช้เจลาตินเพื่อการอยู่ตัวของเค้กแทน

หาไปหามาได้มาหลายสูตร แต่บางสูตรก็ใช้ปริมาณมากไป เลือกไปเลือกมาจนได้สูตรนี้มา เพราะปริมาณไม่เยอะมากเกิน

ต่อไปนี้จะเป็นเนื้อเรื่องของการเรียนรู้กับความอลหม่านของการลองทำเค้กกินเองครั้งแรกที่หอนะครับ แต่ก่อนอื่น ขอเชิญพบกับสูตรส่วนผสมที่ต้องใช้ก่อน

ส่วนผสม

ส่วนผสมในนี้ผมคำนวนเป็นถ้วยตวงไม่ก็ช้อนโต๊ะทั้งหมด เพราะที่หอมีแต่ถ้วยตวง อาจคลาดเคลื่อนไปบ้าง แต่ไม่เยอะ ไม่น่ามีปัญหาอะไรมากครับ

  1. โอริโอ้ 7 ชิ้น
  2. ครีมชีส 200-250 กรัม หรือ 20 ช้อนโต๊ะ
  3. ครีมสด 200 cc. หรือ 12 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำผึ้ง 5 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำเลม่อน 1 1/2 ช้อนโต๊ะ (ผมใช้น้ำมะนาวแทน หาเลม่อนไม่เจอ รสชาติก็อร่อยดี ไม่ได้แย่มาก)
  6. เจลาตินผง 5 กรัม หรือ 2 ช้อนชา
  7. เนย 40 กรัม หรือ 3.2 ช้อนโต๊ะ
  8. บิสกิต หรือ แป้งโอริโอ้ 70 กรัม หรือ 12 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนกรรมวิธี

  1. นำบิสกิตใส่ลงไปในถุงพลาสติก แล้วใช้ไม้ทุบให้ละเอียด(หรือจะใช้เครื่องปั่นช่วยก็ได้)  จากนั้นนำเนยไปอุ่นในไมโครเวฟซัก 30 วินาที นำมาคลุกกับแป้งบิสกิตให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  2. กดแป้งบิสกิตลงบนพิมพ์หรือถาดให้เรียบเนียนกับ ใช้ช้อนช่วยกดก็ได้นะ จากนั้นให้นำไปแช่เย็นสักแป้งแข็งตัวประมาณ 2 ชั่วโมง
  3. หันมาตีครีมสดให้ขึ้นรูป จากนั้นนำไปผสมกับครีมชีส น้ำผึ้ง และน้ำเลมอน
  4. นำเจลาตินผสมกับน้ำ 2 ช้อนโต๊ะ แล้วใส่ในไมโครเวฟ 20-30 วินาที คนให้ละลาย จากนั้นนำไปผสมกับชามครีมชีสเมื่อกี้  คนให้เข้ากัน แล้วใส่โอริโอที่ทุบให้ละเอียดลงไปผสม คนให้เข้ากันอีกครั้ง
  5. เทลงไปบนส่วนฐานที่ทำไว้ จากนั้นแช่ไว้ในช่องฟรีสจนแข็งตัว ประมาณ 3 ชั่วโมง  ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว!

ครับ ทั้งหมดนี้คือสูตรกรรมวิธีนำมาจากต้นฉบับเลย (แหล่งที่มาท้ายบทความ) มีปรับเพิ่มเติมนิดหน่อย แต่ไม่เยอะมาก จบไปแล้วกับความจริงจัง กลับมาสู่ความวินาศเพราะตอนทำจริงมันพังครับ... ด้วยเหตุผลหลายอย่างดังที่จะเล่าต่อไปนี้

ความพังของการทำเค้กแบบตามมีตามเกิด

ครีมชีสเก็บนานเกิน

ครีมชีสที่มีอยู่นั้นซื้อมานานมากแล้ว ตั้งแต่เริ่มมีไอเดียว่าอยากจะทำ แต่นั้นไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือระหว่างความขี้เกียจและไม่ว่างทำให้ไม่ได้ทำเค้กนั้น ครีมชีสนี้ก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากเกินแล้ว เพราะหลายเดือนที่ผ่านมาแม่ผมได้มาช่วยละลายน้ำแข็งในตู้เย็น ดังนั้นเลยต้องเอาของออก ๆ เข้า ๆ ตู้เย็นบ่อย ๆ แต่ตอนเปิดครีมชีสมาชิม ๆ ดูและสังเกตก็พบรสชาติไม่เน่าเสีย ไม่มีกลิ่นแปลก ๆ แต่เนื้อครีมชีสเป็นเม็ด ๆ

คาดเดาว่าเป็นเพราะความเก่าและการนำเข้า ๆ ออก ๆ ตู้เย็นหลายรอบเกิน แต่ซีลปิดสนิทเลยไม่เกิดราหรือเสีย ขอบพระคุณความซีลดีเยี่ยมของครีมชีส Philadelphia

แต่ไปค้นมาในอินเตอร์เน็ต ก็พบบางคนบอกว่าลองแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเช่นเอาเข้าอุ่นไมโครเวฟ (หืม) เพราะอาจจะเป็นเพราะละลายไม่มากพอ เป็นต้น (แต่ผมคิดว่าเพราะมันเก่า...)

ปัญหาของการที่ครีมชีสเป็นเม็ด ๆ เนื้อเค้กจะไม่เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน กลายเป็นดังภาพด้านลาง เป็นเม็ด ๆ ก้อน ๆ ดูไม่น่ากิน

โอริโอ้ซื้อมาน้อยเกิน

ประเด็นต่อมา คือ ตอนแรกวางแผนว่าจะเอาโอริโอ้ทำเป็นฐาน ก็ซื้อมาห่อเดียว ห่อยาว ๆ เลยจำไม่ได้ว่ามีกี่ชิ้น แล้วต้องแบ่งเจ็ดชิ้นไว้หัก ๆ ใส่ในเค้ก ซึ่งปรากฏบดส่วนที่เหลือหลังจากแบ่ง 7 ชิ้นไปแล้ว... ไม่พอครับ คือ สูตรต้องการ 12 ช้อนโต๊ะ แต่ผมได้แค่ 6 ช้อนโต๊ะ สุดท้ายเลยต้องลงไปมินิมาร์ทไปซื้อแครกเกอร์มา โชคดีแครกเกอร์ไซส์มัน 80 กรัม ใกล้เคียงสูตรพอดี เลยไม่ต้องตวง สรุปคือ ใช้แครกเกอร์แทน

คำถามจากทางบ้าน (เพื่อนถาม) ทำไมไม่ผสมโอริโอ้ที่บดแล้วไปด้วยกับแครกเกอร์

คำตอบ ผมอยากรู้ว่า 80 กรัม ของแครกเกอร์มันได้ 12 ช้อนโต๊ะตามที่ผมคำนวนจริงไหม ผมเลยยอมเอาแครกเกอร์ทั้งหมดเลย ซึ่งสุดท้ายได้ 13 ช้อนโต๊ะ เกินมาหน่อยเพราะมัน 80 กรัม สรุป คือ ผมคำนวนช้อนโต๊ะถูกต้องครับ !

ไม่มีตะกร้อคนแป้ง

ห้องผมไม่มีอุปกรณ์พวกนี้เลย การตีแป้งเลยต้องใช้ส้อมตีแทน แต่ปัญหาคือส้อมก็ไมค่อยแข็งแรงมาก ตีก็ลำบาก แถมชามเล็กด้วยเลยตีแรง ๆ ไม่ได้เดี๋ยวหก เลยเกิดปัญหาว่าส่วนผสมไม่รวมเป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งจะส่งผลให้ตอนทำเสร็จแล้วเอาออกมากิน เจลาตินไปไม่ทั่ว เจลาตินเกาะอยู่บางจุด หรือบางที่เปรี้ยว บางที่หวาน อย่างนี้เป็นต้น

ผสมเจลาตินไม่ทั่วเนื้อเค้ก

ที่ผมเจอคือ เจลาตินมันต้องอุ่นร้อนให้ละลาย ซึ่งการใช้ไมโครเวฟแทนตั้งเตาก็กำลังดี แต่ทำครั้งแรกเลยรู้สึกว่าละลายไม่ดีพอ ต้องคอยเช็คให้มั่นใจ หรืออุ่นหลายรอบเพื่อให้เจาลาตินละลายดีพอ

สิ่งต่อมาคือเจลาตินเมื่อเทลงเนื้อเค้กควรรีบตีให้เร็ว ๆ เพื่อให้กระจายได้ทั่ว เพราะเมื่ออุ่นร้อนแล้วมาเจอความเย็นของเนื้อเค้กกลายเป็นจะจับตัวเป็นวุ้นเร็วมาก ตอนกินจะพบก้อนเจลาตินเป็นเม็ด ๆ เพราะคนไม่ทั่ว (ผมกากเองอันนี้)

โอริโอ้ป่นทำเนื้อเค้กไม่หยาบเกิน

จากเรื่อง โอริโอ้ซื้อมาน้อยเกิน ซึ่งตอนนั้นผมบดโอริโอ้ไปแล้ว แล้วเปลี่ยนมาใช้แครกเกอร์แทน เลยไม่รู้จะเอาผงโอริโอ้ไปทำอะไร แต่ด้วยความอยากรู้เพราะไม่เคยเห็นใครทำ เลยลองผสมโอริโอ้บดละเอียดลงในแป้ง สรุป พังครับ... ปัญหาที่เกิดคือ ผงเล็ก ๆ ของโอริโอ้ทำให้เนื้อแป้งไม่เนียน เวลากินจะรู้สึกร่วน ๆ และสีมันก็ดูไม่ดีด้วย

ดังนั้นผมว่าควรทำตามสูตรมันไปเหอะ หัก ๆ เป็นชิ้นพอประมาณแล้วยัดลงส่วนผสมเค้ก ไม่ต้องป่นเป็นผง แต่การหักเป็นชิ้น ๆ ลงเนื้อเค้กผมพบปัญหาว่า เวลากินจะลำบาก เพราะตัดเค้กแล้วเจอชิ้นโอริโอ้นี่ปัญหาเลย เลยคิดว่าควรเปลี่ยนจากการใส่ลงในเนื้อเค้กเป็นแปะไว้บนหน้าเค้กดีกว่า

รีวิวจากมิตรสหายท่านหนึ่ง

อร่อยดี กินแล้วก็กินได้อีกเรื่อย ๆ คงให้ 9/10

มิตรสหายผู้บอกว่าไม่เคยกินชีสเค้กมาก่อนเลยไม่รู้ของดี ๆ มันเป็นไง

กินได้นะ แต่ควรเลิกเอาผงโอริโอ้ใส่ลงไป แล้วเดี๋ยวคราวหน้าให้ยืมตะกร้อคนแป้ง

มิตรสหายผู้อำมาตย์กินของดี ๆ มาเยอะ

รสชาติอร่อย แต่เค้กไม่แข็ง เจลาตินเกาะเป็นก้อน ฐานเค้กร่วนเกิน

ที่ปรึกษาส่วนตัวข้าพเจ้า

รสชาติพอไปได้ อร่อยดี แต่คนให้ดีหน่อย มะนาวกระจุกกันเป็นก้อน ๆ เลย

มิตรสหายย่านพญาไทอีกสองคน

เนื้อไม่เนียนเลย

แม่

สรุปปัญหา

  • อย่าใส่โอริโอ้ป่นละเอียดลงเค้กเลย เอาหักเป็นชิ้น ๆ โรยหน้าดีกว่า เกร๋ ๆ
  • เทเจลาตินลงส่วนผสมแล้วควรรีบตีให้เร็วก่อนมันจับตัว
  • ซื้อตะกร้อตีแป้งเหอะ
  • ครีมชีสซื้อมาแล้วรีบทำควรจะดีกว่า
  • ถ้าจะทำโอริโอ้เป็นฐานควรใช้สักสองสองใหญ่

สรุปค่าเสียหาย

จำราคาไม่ได้ครับ... ลืมหมดแล้ว ขอคร่าว ๆ ละกัน เขียนเฉพาะที่จำราคาได้ ที่ไม่ได้เขียนคือลืมราคาไปแล้วครับ ลืมจดเก็บไว้

  1. ครีมชีส 150 บาท
  2. น้ำผึ้งหลอดใหญ่ 120 บาท (แต่ใช้ไม่เยอะ)
  3. เนยสดจืด 90 บาท (นี่ก็ใช้แค่ 1/5 ของก้อน)
  4. แคกเกอร์ 12 บาท
  5. มะนาว สามลูก 15 บาท (แพงเว้ย ใช้อยู่ลูกเดียว นี่ซื้อจาก Tops)
  6. ครีมสด 90 บาท

สรุปจบจริง ๆ ล่ะ

เค้กออกมาก็กินได้ครับ บางคนบอกอร่อย และสำคัญคือผ่านมายังไม่มีเพื่อนคนไหนเข้าโรงพยาบาลครับ...

สูตรโอริโอ้ชีสเค้ก ต้นฉบับ - http://sistacafe.com/summaries/1319-เมนูง่ายๆไม่ต้องใช้เตาอบOREOrarecheesecake