แจกแผนเที่ยวตระเวนเกาะฮอกไกโด 8 วัน

แจกแผนเที่ยวตระเวนเกาะฮอกไกโด 8 วัน
สวนสาธารณะ Nakajima

ช่วงพฤศจิกายน 2023 เราวางแผนและไปเที่ยวฮอกไกโด 8 วันกับแม่ เพื่อนหลายคนถามเรื่องแผนของทริป ที่พัก การเดินทาง ฯลฯ เลยเขียนบล็อคเก็บไว้เผื่อใครจะเอาแผนนี้ไปใช้

เนื่องจากเป็นการไปญี่ปุ่นครั้งแรกของแม่และแม่คงไม่ได้มาบ่อย ๆ ได้ เลยวางแผนให้เที่ยวได้ครบหลายที่แต่ไม่ต้องย้ายโรงแรมบ่อยเกินความจำเป็น เน้นตระเวนทั่วครบเมืองสำคัญบนเกาะฮอกไกโดโดยเดินทางด้วยรถไฟเป็นหลักและไม่ต้องลาหลายวัน

ในบทความนี้เขียนแยก 4 หัวข้อ

  1. แผนการเที่ยวรายวัน
  2. การเดินทาง
  3. โรงแรม
  4. สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองปลายทาง

แผนการเที่ยวรายวัน

วันที่ 1: Bangkok - Sapporo

ขึ้นเครื่องบินจากสุวรรณภูมิกลางคืน เดินทางถึงสนามบิน Shin Chitose ในตอนเช้า จากนั้นนั่งรถไฟเข้าเมือง Sapporo เพื่อเช็คอินโรงแรมและเที่ยวรอบเมือง

วันที่ 2: Sapporo

เที่ยวรอบเมือง Sapporo อีกหนึ่งวัน

วันที่ 3: Sapporo - Otaru - Sapporo

นั่งรถไฟจาก Sapporo ไป Otaru เพื่อเที่ยวรอบเมืองแบบ Day trip จากนั้นกลับมาพักที่ Sapporo ใช้เวลาเดินทางขาละ 45 นาที

วันที่ 4: Sapporo - Funaro - Biei - Sapporo

วันนี้ตารางเวลาจะต้องเป๊ะหน่อยเพราะรถไฟไป Furano ไม่ค่อยมีเที่ยวเยอะ วิธีการเดินทางคือนั่งรถไฟจาก Sapporo ไป Takikawa เพื่อเปลี่ยนขบวนเป็นสายท้องถิ่นไปเมือง Furano

วันนี้ตื่นเช้าเพื่อนั่งรถไฟเที่ยว 6:30 จาก Sapporo ไป Furano โดยถึงปลายทางประมาณ 9 โมง จากนั้นเช่ารถขับเที่ยวธรรมชาติบริเวณเมือง Furano และ Biei จากนั้นคืนรถตอน 17:00 และนั่งรถไฟกลับมาพักที่ Sapporo ประมาณ 20:30

วันที่ 5: Sapporo - Noboribetsu

เช็คเอ้าต์โรงแรมที่ Sapporo แล้วนั่งรถไฟไปเมืองน้ำพุร้อน Noboribetsu โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า จากนั้นเช็คอินเรียวกังและเดินเที่ยวในเมือง

วันที่ 6: Noboribetsu - Hakodate

เช็คเอ้าต์จากเรียวกังแล้วเดินทางด้วยรถไฟต่อไปที่ Hakodate ใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง จากนั้นเช็คอินโรงแรมแล้วเที่ยวรอบเมือง Hakodate

วันที่ 7: Hakodate - Sapporo

เช็คเอ้าต์โรงแรมตอนเช้า เดินเล่นรอบเมืองครึ่งเช้า จากนั้นนั่งรถไฟกลับไปสนามบิน Shin Chitose เพื่อเข้าพักที่โรงแรมในสนามบินก่อนบินวันรุ่งขึ้น

วันที่ 8: Sapporo - Bangkok

เช็คเอ้าต์จากโรงแรมในสนามบิน ขึ้นเครื่องกลับประเทศไทย

การเดินทาง

เราเดินทางด้วยรถไฟเป็นหลักแต่มีเช่ารถที่ Furano เพราะแถบนั้นเป็นพื้นที่ชนบททำให้เดินทางด้วยขนส่งสาธารณะลำบาก

รถไฟระหว่างเมือง

รถไฟส่วนใหญ่จะนั่งข้ามเมืองโดยส่วนใหญ่ควรจองที่นั่งเสมอเพราะเป็นรถนั่งหลายชั่วโมงและการันตีว่ามีที่นั่งถ้าไปช่วง Peak Season โดยสามารถกดจองที่นั่งที่หน้าตู้กดตั๋วตามสถานีรถไฟ

เราคำนวนการเดินทางรายวันแล้วพบว่าใช้ Hokkaido JR Pass จะคุ้มกว่าซื้อตั๋วหน้าตู้ประมาณ 10-20% ของค่าใช้จ่าย โดยเราใช้ตั๋ว 7-day เพราะคืนสุดท้ายอยู่ที่สนามบิน ดังนั้นระยะเวลาตั๋วจะพอดีกับวันที่ต้องเดินทาง

สำหรับคนที่มองหาตั๋ว JR Pass แนะนำให้ซื้อ Hokkaido JR Pass ซึ่งเป็นตั๋ว JR Pass ที่ใช้ได้แค่ในเกาะฮอกไกโด ข้อดีคือถูกกว่าตั๋ว JR Pass ทั้งประเทศแบบเท่าตัว

สำหรับข้อมูลให้ดูที่ Hokkaido Rail Pass Website แต่แนะนำให้ซื้อตั๋วกับ Klook จะง่ายกว่า

สามารถเช็คตารางเวลาแบบแม่นยำได้ที่เว็บของ Hokkaido Railway เช่นเดียวกัน

Hakodate Station

รถไฟและรถบัสภายในเมือง

รถไฟใต้ดิน รถราง รถบัส ทั้งหมดนี้ไม่สามารถใช้ JR Pass ได้

ค่าโดยสารส่วนใหญ่จะราคาไม่แพง ทั้งหมดรองรับบัตร IC เช่น Suica หรือ Kitaca โดยถ้าทำบัตร IC ใน Hokkaido จะได้บัตร Kitaca ซึ่งเป็นประจำเกาะฮอกไกโด แต่ถ้ามี Suica อยู่แล้วก็สามารถใช้แทนกันได้

เมือง Sapporo จะมีทั้งรถรางและรถไฟใต้ดิน ทั้งสองมีวิธีคิดเงินต่างกัน สามารถค้นหาข้อมูลเรื่องนี้ได้ในอินเตอร์เน็ต

เมือง Hakodate มีรถรางคล้ายกันแต่เมืองนี้ไม่มีรถไฟใต้ดิน หาข้อมูลราคาต่อเที่ยวได้จากในอินเตอร์เน็ตเช่นเดียวกัน

เช่ารถ

สำหรับรถเช่าเพื่อเที่ยว Furano - Biei เราใช้บริการ Toyota Rent-A-Car ซึ่งราคาไม่แพง เลือกร้านในเมือง Furano เพราะไม่อยากเช่ารถขับมาจาก Sapporo ซึ่งทำให้เปลืองค่าทางด่วนและน้ำมันกว่าเดิม ถ้าเราเช่ารถที่ Furano เราจะได้ใช้ JR Pass ให้คุ้มมากขึ้น

ร้าน Toyota Rent-A-Car มีจุดบริการไม่ไกลจาก Furano station เดินประมาณ 5 นาที

Toyota Rent-a-Car Furano Station · 2-15 Hinodemachi, Furano, Hokkaido 076-0025, Japan
★★★★☆ · Car rental agency

พนักงานพูดสื่อสารภาษาอังกฤษพอได้ ไม่มีปัญหาในการใช้งาน รถคุณภาพดี (แม่ชอบมาก)

เมือง Furano และ Biei เป็นเมืองชนบท เราไปช่วงใบไม้ล่วงซึ่งไม่ใช่ Peak season ทำให้ไม่เจอรถบนถนนเลย ถนนโล่งมาก ๆ ขับสบาย ๆ มองวิวได้เรื่อย ๆ

ระหว่างขับเล่นระหว่างเมือง Furano - Biei

โรงแรม

Sapporo - เราพักที่ โรงแรม JAL City Sapporo Nakajima Park ซึ่งห้องกว้างใช้ได้ในมาตรฐานญี่ปุ่น ห้องน้ำดี ของใช้ครบถ้วน อยู่ใกล้จุดท่องเที่ยวอย่างย่าน Susukino และอยู่ห่างจากรถไฟใต้ดินแค่ 5 นาที

Noboribetsu - สำหรับเรียวกังน้ำพุร้อน เราอยากได้ประสบการณ์แบบจัดเต็ม เลยเลือกพักโรงแรม Dai-ichi Takimotokan ซึ่งเป็นเรียวกังแรก ๆ ในเมืองนี้ มีอายุเก่าแก่ จุดเด่นของโรงแรมนี้คือ The Grand Bath ซึ่งเป็นห้องอาบน้ำรวมและออนเซ็นที่มโหฬารที่สุดเท่าที่เคยเห็น ไม่ผิดหวังที่พักที่นี่

Hakodate - เราพักที่โรงแรม JR Inn Hakodate ที่อยู่ติดกับสถานี Hakodate เป็นโรงแรมในเครือ JR ห้องค่อนข้างเล็กแต่คุณภาพดี ข้อเสียคือห้องอาบน้ำเล็กมากและต้องมาแต่งตัวนอกห้องน้ำเพราะไม่มีโซนแห้งในห้องน้ำ ข้อดีคือมีบริการยืมหมอน มีให้เลือกเป็นสิบ ๆ แบบ

Shin-Chitose Airport - คืนสุดท้ายเราพักในสนามบิน ณ โรงแรม Air Terminal ซึ่งตั้งอยู่ในฝั่งอาคาร Domestic เป็นโรงแรมเก่าของสนามบินแต่โดยรวมไม่ได้แย่

เมืองปลายทาง

เราไม่ค่อยได้ทำกิจกรรมหลากหลายเพราะเที่ยวกับแม่ เลยไม่ได้ขึ้นเขาลงห้วยเยอะ แต่แวะร้านอาหารต่าง ๆ และเที่ยวจุดท่องเที่ยวที่สามารถเข้าถึงได้ไม่ยาก

Sapporo

ซัปโปะโรเป็นเมืองหลักของเกาะฮอกไกโด เป็นเมืองที่เจริญที่สุดในเกาะ มีห้างร้านหลากหลาย มีร้านอาหารเยอะ มีรถไฟใต้ดินของตัวเอง มีรถราง ฯลฯ

เมืองมีอะไรให้ทำหลายอย่าง เราไม่ได้เยี่ยมชมครบทุกที่แต่ไปเยี่ยมสถานที่ที่เราอยากไป เช่น มหาลัยฮอกไกโดซึ่งเราเคยแลกเปลี่ยนครึ่งปี และเยี่ยมร้านอาหารของคนญี่ปุ่นที่เรารู้จักกัน

Hokkaido University (map) คือ หนึ่งสถานที่เที่ยวสำคัญในเมือง เป็นมหาลัยที่ถูกจัดว่าสวยเป็นอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่น จุดเด่นสำคัญคือถนนสีทอง เป็นถนนตรงยาวเต็มไปด้วยต้นแปะก๊วยที่ใบไม้จะกลายเป็นสีเหลืองทองทั้งเส้นในช่วงใบไม้ร่วง แต่ถ้าไม่ใช่ฤดูใบไม้ร่วงก็ยังเดินชมบรรยากาศในมหาลัยชิว ๆ เหมือนกัน (พูดในฐานะคนทำวิจัยที่นี่ครึ่งปี)

ในมหาลัยมีร้านสะดวกซื้อ Seico Mart โดยมีที่นั่งชั้นสองซึ่งเป็นมินิมาร์ทที่มีอาหารทำสดและเป็นมินิมาร์ทประจำเกาะฮอกไกโด ในมหาลัยยังมีคาเฟ่อีกสองสามแห่ง

อีกสถานที่ คือ ภูเขา Moiwa (map) อยู่ทางใต้ของเมือง สามารถนั่งรถเคเบิลขึ้นไปดูวิวที่ยอดได้ ต้องซื้อตั๋ว แนะนำให้มาถ่ายวิวเพราะเป็นจุดถ่ายวิวประจำเมือง จุดเด่นคือวิวช่วงพระอาทิตย์ตกและค่ำ สามารถมองเห็นได้ทั้งเมืองตั้งแต่ทิวเขาไปถึงทะเล

สำคัญ! โปรดตรวจสอบเวลาทำการเพราะบางเดือนจะมีการปิดปรับปรุงประจำปี

นอกจากนี้ยังมีอื่น ๆ ที่เราไปเยี่ยมและไม่ได้ไปเยี่ยม ลองหาข้อมูลเองได้

  • Shiroi Koibito Park
  • Sapporo Beer Museum
  • Tanukikoji Shopping Street
  • Former Hokkaido Government Office Building
  • Odori Park
  • Sapporo TV Tower
  • Nakajima Park

Otaru

เมืองท่าใกล้เมืองซับโปะโร เป็นเมืองที่ไม่ค่อยมีอะไรมากแม้แต่เพื่อนชาวญี่ปุ่นก็เคยถามว่าจะไปดูอะไรกันทำไม จุดน่าสนใจหลักคือคลองและร้านอาหารทะเล

หนึ่งสถานที่สำคัญ คือ คลอง Otaru (map) เป็นคลองมีเรือนั่งชมแต่ก็วิวเดียวกับที่เดินเลียบคลอง ใช้เวลาเดินวนไปมา 30-60 นาทีก็ครบแล้ว

คลองโอตารุ

ต่อจากคลอง เดินถัดมาจะเจอ ถนน Sakaimachi Hondori (map) ที่มีหลายร้านค้า เช่น ร้านดังอย่าง LeTao และที่ปลายถนนมีจุดเด่นเป็นนาฬิกาไอน้ำโบราณ

ใกล้กับสถานีรถไฟ Otaru ก็มี ตลาดอาหารทะเล Sankaku (map) ไม่ใหญ่มากแต่ด้านในมีร้านอาหารทะเลหลากหลาย

นอกจากนี้ยังมีที่เที่ยวในเมืองที่เราหาข้อมูลไว้แต่ไม่ได้ไป เราจะเขียนไว้ด้านล่าง สามารถนำไปหาข้อมูลเพิ่มเติมต่อได้

  • Asahi Observation Deck
  • Otaru Aquarium
  • Old Aoyama Villa

Furano & Biei

ฟุราโนะและบิเอเป็นเมืองชนบทที่คนจะไปเที่ยวด้วยกัน ฤดูกาลหลักคือใบไม้ผลิที่คนไปดูทุ่งลาเวนเดอร์กัน ส่วนเรากับแม่ไปช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะไม่เห็นพวกนั้นแล้ว แต่ก็ยังมีสถานที่ให้แวะได้เยอะ ส่วนใหญ่เป็นแนวธรรมชาติ

สถานที่ดังเป็นอันดับต้น คือ บ่อน้ำสีฟ้า Shirogane Blue Pond (map) เป็นบ่อน้ำ... ที่มีสีฟ้า.... หน้าทางเข้ามีคาเฟ่เล็ก ๆ เปิดขายไอศกรีมสีฟ้า

It's just that

ถ้าขับรถเที่ยวต่อจากบ่อน้ำสีฟ้า สามารถขับมาที่ จุดชมวิว Tokachidake (map) ซึ่งไม่มีสิ่งปลูกสร้างอะไรมาก ขับรถขึ้นไปจอดถ่ายรูปวิวได้ วิวสวยเหมือนกัน และที่นี่ยังเป็นจุดเริ่มเดินเขาสำหรับคนที่จะเดินขึ้นยอดภูเขาไฟ Tokachi ด้วย

และสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับ Furano คือ ฟาร์มลาเวนเดอร์ เราไปเที่ยว Tomita Farm (map) ซึ่งมีประวัติศาสตรน่าสนใจ ด้านในฟาร์มสามารถเข้าไปถ่ายรูปชมวิว มีร้านอาหารและคาเฟ่รวมถึงร้านขายของฝาก ของฝากส่วนใหญ่เกี่ยวกับลาเวนเดอร์ทั้งน้ำหอม ถุงหอม สบู่

นอกจากนี้ระหว่างทางมีแวะร้านจิปาถะ จุดชมวิวผ่านทางและร้านคาเฟ่ เดี๋ยวจะแปะชื่อสถานที่ไว้ด้านล่าง

  • Hokuseiyama Observation Deck
  • Farm Tomita
  • Shirahige Waterfall

Noboribetsu

เมืองน้ำพุร้อน Noboribetsu ขึ้นชื่อเรื่องออนเซ็นและหุบเขานรก เมืองเล็กไม่ค่อยมีอะไรมาก ใช้เวลาวันเดียวก็เที่ยวได้แต่แนะนำให้ค้างคืนในเรียวกังที่นี่เพื่อสัมผัสบรรยากาศแช่ออนเซ็นในเรียวกัง

Jigokudani หรือ หุบเขานรก (map) คือจุดเด่นของเมือง เป็นพื้นที่น้ำพุร้อนที่คลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ สามารถเดินเล่นได้ตามเส้นทางที่กำหนดไว้ เส้นทางเดินครบรอบใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เดินผ่านจุดน่าสนใจหลายแห่ง เช่น บ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ ลำธารน้ำร้อนที่สามารถแช่เท้าได้

ทางเดินไม่ยากมาก แต่ถ้ามีปัญหาเข่าอาจจะต้องพิจารณาเพราะต้องเดินขึ้นลงเนินเขาบางจุด

นอกจากอันนี้มีจุดน่าสนใจอื่น ๆ ไม่มากแต่เราไม่ได้แวะไป

  • Noboribetsu Bear Park
  • ทะเลสาบ Kuttara

Hakodate

ฮาโกดาเตะเป็นเมืองท่าสำคัญในเกาะฮอกไกโดและเป็นเมืองทางประวัติศาสตรด้วย มีภูเขา ป้อมปราการให้เยี่ยมชม การเดินทางในเมืองใช้รถรางเนื่องจากไม่มีรถไฟใต้ดินและรถไฟ JR ก็ผ่านแค่ช่วงสั้น ๆ ของเมือง

เมืองนี้เป็นสถานีปลายทางชิงกังเซ็นสำหรับคนที่นั่งขึ้นมาจากโตเกียวหรือเซนไดเพื่อจะมาที่เกาะฮอกไกโด

Goryōkaku Tower (map) เป็นจุดท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ เราไม่ได้เดินเข้าไปด้านในป้อมปราการแต่ขึ้นชมวิวที่หอชมวิวด้านนอก ค่าขึ้นหอชมวิวไม่แพง วิวสวยดี

ตัวป้อมปราการมีลักษณะเป็นสวนขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยคลอง มีบ้านโบราณตั้งอยู่ตรงกลาง

นอกจากนี้ยังมีจุดท่องเที่ยวอีกหลายจุด เช่น ภูเขาฮาโกดาเตะ แต่ว่ารถเคเบิลสำหรับขึ้นไปบนยอดเขาปิดปรับปรุงวันที่เราไป เลยไม่ได้ขึ้นไปชมวิว ขอแปะชื่อสถานที่ไว้เหมือนเดิมเผื่อใครหาข้อมูลเพิ่มเติม

  • Mt. Hakodate Observatory
  • Kanemori Red Brick Warehouse
  • Hachiman-Zaka Slope
  • Hakodate Tropical Botanical Garden
  • Cape Tachimachi