[Exclusive] บทสัมภาษณ์นศ.ไทยหนึ่งเดียว ได้รับทุนจาก Apple ที่หาอ่านที่อื่นไม่ได้ กับปัญหาระดับชาติ สั่งชาบูยังไงให้กินหมด...

[Exclusive] บทสัมภาษณ์นศ.ไทยหนึ่งเดียว ได้รับทุนจาก Apple ที่หาอ่านที่อื่นไม่ได้ กับปัญหาระดับชาติ สั่งชาบูยังไงให้กินหมด...

"นักเรียนไทยหนึ่งเดียว ที่ได้รับทุนจาก Apple เข้าร่วมงาน WWDC 2019"

"สัมภาษณ์พิเศษ นักศึกษาไทยคนเดียว ที่ได้ทุนจาก “แอปเปิ้ล”ในปีนี้"

"Apple ให้ทุน #เด็กไอที #สจล ร่วมงาน WWDC 2019 ที่สหรัฐฯ"

"พูดคุยกับนักศึกษาไทยหนึ่งเดียวที่ได้ทุน Scholarship จาก Apple เข้าร่วมงาน WWDC"

ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาหลายคนคงได้เห็นพาดหัวข่าวและบทความสัมภาษณ์เหล่านี้ผ่านตากันบ้าง กับเรื่องราวของนายพัชรพล จอกสมุทร หรือที่เพื่อน ๆ เรียกว่า "ฟีม" ด้วยผลงานได้รับทุนจาก Apple เพื่อไปเข้าร่วมงาน WWDC หรืองานประชุมเปิดตัวนวัตกรรมของบริษัท Apple ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี

บทความมากมายเขียนถึงความเก่งและความขยันที่มุมานะอันได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่เห็นเป็นประจักษ์ชัดเจนและโดดเด่นจนเป็น "หนึ่งเดียว" ของประเทศไทยในปีนี้ที่ได้ทุนดังกล่าว

และนั่นคือเบื้องหน้าทั้งหมดที่หาอ่านได้จากสัมภาษณ์ตามอินเตอร์เน็ตทั่วไป แต่ใครจะรู้ครับว่าหนึ่งเดียวคนไทยคนนี้มีเบี้องหลังที่เลวร้ายยังไงเมื่ออยู่นอกฉากการสัมภาษณ์ครับ และใช่ครับวันนี้บล็อกของผมได้นำบทสัมภาษณ์เบื้องหลังสุดพิศดารมาเผยแพร่สู่สาธารณะชน บทสัมภาษณ์ระดับนี้ เจ้าหญิงไอทีก็ไม่มีทางได้มา The Standard ก็อย่าฝันครับ

จบการอารัมภบท

เรื่องของเรื่องคือไปกินชาบูด้วยกันครับ แล้วมันสั่งเนื้อมาอย่างเยอะ กินไม่หมดเกือบโดนปรับ สุดท้ายนั่งกล้ำกลืนฝืนกินกันจนหมด โชคดีคืนได้สามถาด สุดท้ายเลยไม่โดนปรับ...

เรื่องทั้งหมดเริ่มมาจากการทักไปหาตอนบ่าย ๆ ว่านัดเจอกินข้าวกัน สุดท้ายตกลงไปเจอกันที่สยามพาราก้อน เลือกร้านชาบูกัน ระหว่างรอคิว 30 นาที มันก็สั่งอาหารกันไป กะว่าถ้าเข้าไปนั่งแล้วอาหารจะมาเสิร์ฟเลย ระหว่างมันสั่งกันผมก็นั่งทำงานไม่ได้ฟังว่าสั่งอะไร แค่ตอบว่าเอาน้ำชากับข้าวญี่ปุ่นด้วย

สุดท้ายเข้าไปนั่ง จำได้เลย เนื้อมาอย่างเยอะ ทั้งเนื้อวัว หมู หมูพิเศษ ตั้งเรียงเป็นทาวเวอร์สูงเกือบมิดหัว

ช่วงแรกก็กินกันเพราะหิว คิดว่าหมด ผ่านไปครึ่งทางอยู่ ๆ เพื่อนคนนึงในกลุ่มชิ่งหนี บอกอิ่มไม่ไหวแล้ว อำลาสมรภูมิรบอันเดือดพล่านด้วยไอน้ำชาบู... ที่เหลือมองหน้ากันเลิ่กลั่ก จะหมดไหมเนี่ย...

ระหว่างกินไปก็คุยไปถ่วงเวลาชีวิตให้มันรู้สึกว่ากินได้เรื่อย ๆ กินไปก็ด่าไปใครมันสั่งมาเนี่ย กินไม่หมด... ระหว่างด่ากันไปมาก็คุยเรื่องว่าเป็นตัวแทนหนึ่งเดียวประเทศภาษาอะไรสั่งเนื้อชาบูไม่เป็นสั่งมากินไม่หมด สำนักข่าวออนไลน์ที่สัมแต่ด้านดี ๆ ทำไมไม่มาสัมภาษณ์ความเลวร้ายอะไรแบบนี้บ้าง...

สุดท้ายตอนกินใกล้หมดเหลือไม่กี่ถาดเลยแกล้งคุยกัน เพื่อนอีกคนเสนอว่าผมที่เขียนบล็อกเป็นประจำน่าเกาะตัวแทนประเทศดังเสียหน่อยโดยการสัมภาษณ์อะไรก็ได้แล้วมาเขียนบล็อก คุยไปมาก็จบที่สัมภาษณ์ปัญหาตรงหน้านี่แหละ... "สั่งเนื้อชาบูไงถึงจะถูกวิธีให้กินหมด"

แน่นอนเพื่อนอุตส่าห์ได้เป็นตัวแทนประเทศไปร่วมงานแอปเปิ้ล ก็ต้องพิเศษหน่อย มีอัดคลิปสัมภาษณ์มาด้วย



จากคลิปสัมภาษณ์ครับ แน่นอนคุณฟีมเป็นนักศึกษาจากคณะไอที ที่ได้ทุนจากบริษัทเทคโนโลยี เขาคนนี้ก็จึงเอาความสามารถด้านไอทีมาแก้ปัญหาการสั่งเนื้อชาบูโดยการประยุกต์หลักการ Agile มาใช้นะครับ จะเห็นได้ว่าการที่เราเอาความหิวตั้งต้นเป็นความต้องการ (Requirement) มาสั่งที่อยากกินแบบรวดเดียว แล้วมานั่งกินให้หมดเลยก็ไม่ต่างอะไรจากการทำงานแบบ Waterfall นะครับ ดังนั้นหากเรานำ Agile มาใช้ ค่อย ๆ สั่งทีละนิด แล้วปรับปรุงสิ่งที่เราจะสั่งตามความต้องการของคนกินที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ เราก็จะสามารถรับมือกับความต้องการและความอิ่มที่ค่อย ๆ เกิดขึ้นมาได้นั่นเองครับ

คำตอบเยี่ยมจริง ๆ ครับ สมแล้วที่เป็นหนึ่งเดียวของประเทศไทยปีนี้ที่ได้รับทุนจาก Apple ครับ

สุดท้ายนะครับ สิ่งที่พวกผมและคุณฟีมได้เรียนรู้ในการกินชาบูครั้งนี้ครับ... อย่าสั่งตอนหิว!! มันกินไม่หมด!!

ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบครับ

ขอขอบคุณภาพและชื่อบทความที่เอามาเปิดหัวเรื่องครับ

บทความอะไรกันแน่เนี่ย...