Year in review: 2020

Year in review: 2020

รีบมาเขียน ก่อนจะลืมเขียน

ปีนี้เป็นปีที่นับว่าค่อนข้างดีที่สุดในชีวิต อาจจะเพราะมีงานทำ มีอิสระ และเริ่มมีเงินเป็นของตัวเอง ก็ได้ทำอะไรหลาย ๆ อย่างที่อยากทำ แต่ก็มีสิ่งที่อยากทำที่ไม่ได้ทำหลายอย่างเช่นกัน

สุขภาพ

ปีที่ผ่านมาคงไม่คุยเรื่องสุขภาพไม่ได้ เพราะโดน Covid-19 กระทบกันถ้วนหน้า แต่แปลกดี ปีนี้เป็นปีแรกเหมือนกันที่เราไม่ป่วยหนักเลยแม้แต่ครั้งเดียว

โดยปกติเราเป็นคนสุขภาพไม่แข็งแรง ต้องมีป่วยหนักนอนซมเป็นครึ่งเดือนสักอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อปี แต่ปีนี้ดันแข็งแรง ไม่ป่วยเลย มีแค่เป็นหวัด ตัวร้อนนิดหน่อย แต่ไม่ถึงขนาดนอนซม อาจจะเพราะคนใส่มาส์กกันถ้วนหน้า เราเลยได้ผลประโยชน์ไป แต่อีกเรื่องที่สำคัญคือ ปีนี้เราออกกำลังกายจริงจังมากขึ้น ว่ายน้ำเกือบทุกอาทิตย์ เข้าฟิตเนส เล่นโยคะ ฯลฯ ที่บ้านและเพื่อนก็ทักว่ามีกล้ามเนื้อมากขึ้น มีเนื้อมีหนังไม่ผอมแห้งลงพุงเหมือนสมัยมัธยม 555

ก็หวังว่าสถิติไม่ป่วยตลอดทั้งปีของเราจะยังดำเนินต่อไปจนจบปี 2021

การงาน

ตอนนี้ก็ย้ายมาบริษัทใหม่ครบปีแล้ว (ย้ายมาปลายปี 2019) ชีวิตการงานมีความสุข เรียกได้ว่าพัฒนาไปทางบวกมากขึ้น งานดี เพื่อนร่วมงานดี ถึงแม้อาจมีเรื่องปวดหัวบ้างเป็นธรรมดาของการทำงานกับคนหมู่มาก แต่โดยรวมนั้นยังมีความสุข

เรื่องชีวิตทำงาน เราตั้งเป้าว่าอยากลองไปทำงานต่างประเทศบ้าง เลยให้เวลาตัวเองสัก 3-5 ปีกับบริษัทปัจจุบัน เราพูดแบบนี้กับ CTO ตั้งแต่สัมภาษณ์งานเลย ตอนนี้ก็ผ่านมาหนึ่งปีละ คงต้องรอดูว่าความคิดเราจะเปลี่ยนไหมในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

เรื่องความรู้และสกิล ตอนนี้ก็พัฒนาไปเยอะขึ้น ได้โดนรายล้อมไปด้วยคนเก่ง ๆ ก็เป็นปัจจัยสำคัญเหมือนกัน แถมได้เจอโปรเจคที่แปลกใหม่มากขึ้น ทำให้เราก็มีโอกาสลองไอเดีย ได้หาข้อมูล เผชิญกับปัญหาใหม่ ๆ ตลอดเวลา จึงเหมือนมีโอกาสให้พัฒนาตัวเองเยอะขึ้นเลยตลอดปีนี้

แต่ถ้าจะให้คะแนนตัวเอง ก็ยังคิดว่าตัวเรายังทำได้ต่ำกว่ามาตรฐานอยู่ดี แต่ก็ค้นพบปัญหาหลักแล้ว นั่นก็คือ "วินัยในตัวเอง" ซึ่งคิดว่าปี 2021 นี้คงจะพัฒนาเรื่องนี้ให้ดีขึ้น จะได้ทำสิ่งต่าง ๆ สำเร็จมากขึ้น

การเงิน

คงไม่บอกหรอกว่าเงินในบัญชีมีเท่าไหร่ แต่บอกได้แค่ว่า โดนมิจฉาชีพหลอกเงินไปพันสองส่งท้ายปีเลย 555 ตอนนี้ยังเก็บกระดาษที่มิจฉาชีพคนนั้นหลอกใส่ในกระเป๋าตังไว้ตลอดเวลาเป็นเครื่องเตือนใจ จำได้ไม่โง่โดนหลอกซ้ำอีกรอบ

นับว่าเป็นประสบการณ์เปิดโลกที่ดีเหมือนกัน ถึงจะแพงไปหน่อยก็เถอะ...

ความรัก

ไม่มีครับ

ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย ทั้งคนที่เราชอบ และ คนที่ชอบเรา 555 เพราะปีนี้เป็นปีที่ยิ่งทำให้มั่นใจว่าเราชอบอยู่คนเดียว คำติดปากของเราคงเป็น "ผมชอบอยู่แบบปัจเจกครับ" ใช้ชีวิตคนเดียวมีความสุขดี อย่ามีคนมาให้ปวดหัวเลยครับ

สาเหตุที่เล่าเรื่องความรัก เพราะปีนี้ทำงานแล้ว ทั้งครอบครัว เพื่อนร่วมงาน และคนรอบตัว ต่างก็ถามว่ามีแฟนยัง ความรักเป็นไงบ้าง ซึ่งเราไม่รังเกียจถ้าจะมีคนถามเรื่องนี้บ่อย ๆ เพราะสนุกกับการตอบคำถามและดูรีแอคชั่นคนถาม 555

ชีวิตความเป็นอยู่

ปี 2020 คือปีแรกที่ได้ย้ายมาอยู่คอนโด เอาจริง ๆ แล้วถือว่าเป็นก้าวสำคัญในชีวิตอย่างนึง เพราะสมัยเด็กนั่งรถผ่านคอนโดแถวบ้าน ก็ฝันมาตลอดว่าอยากอยู่คอนโดสักครั้ง เวลาได้ไปคอนโดเพื่อนแม่หรือใครก็รู้สึกว่ามันเจ๋งจริง ๆ มีแต่คนรวย ๆ ที่ได้อยู่คอนโด

พอโตมาก็พบว่าการอยู่คอนโดไม่ต้องรวยก็ได้ มันไม่ได้แพงมาก แต่ยังไงซะ การได้มาใช้ชีวิตในคอนโดหลังจากอยู่บ้านและหอพักมาโดยตลอดก็เป็นสิ่งสำคัญดี ๆ ในชีวิตเราเหมือนกัน

อยากเล่าเพิ่มเติม เรื่องการตัดสินใจย้ายมาเช่าคอนโดติดรฟฟ.นี่คือสิ่งที่ตัดสินใจถูกที่สุดในปี 2020 ละ เพราะเจอ covid-19 โดนสั่งให้ WFH ทั่วหน้า พอมีคอนโดใหญ่ ๆ มีที่ให้ใช้ชีวิต ทำให้การต้อง WFH ติดกันยาว ๆ ก็ไม่เครียดเกินไป

นอกจากนี้ยังมีเรื่องทั่ว ๆ ไป เช่น ปีนี้อ่านหนังสือพัฒนาตัวเอง ฟังพอดแคสมากขึ้น พยายามพัฒนาชีวิตตัวเองทั้งในเชิงความรู้ การงาน และคุณค่าของการใช้ชีวิตให้มากขึ้นตลอดเวลา ถ้าจะมีคติไหนที่ยึดใช้บ่อย ๆ ช่วงนี้คงเป็น

จงพยายามเป็นคนที่ดีกว่าตัวเราในเมื่อวาน

ซึ่งก็ทำได้ดีพอสมควร เราพัฒนาเรื่องการพูดกับคนอื่น ๆ การใจเย็น มีสติมากขึ้น ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ก็ส่งเสริมให้ชีวิตมีปัญหาน้อยลงแล้วก็มีความสุขมากขึ้นด้วย

อีกอย่างคือปีนี้ใช้ชีวิตคนเดียวมากขึ้น ได้ลองนั่งกิน BBQ Plaza คนเดียวครั้งแรก ถือว่าเป็นก้าวที่ใหญ่มาก เพราะปกติชอบใช้ชีวิตคนเดียว แต่ไม่กล้าทำอะไรคนเดียวซะงั้น

ปัญหาชีวิต

ช่วงท้ายปีเริ่มคิดว่า พอเราเข้าวัยทำงาน เราก็ไม่ได้รับความสำเร็จก้อนใหญ่ ๆ เหมือนสมัยเรียนอยู่แล้ว อาจจะเพราะโลกที่เราสัมผัสมันกว้างขึ้น ความสำเร็จที่เข้ามาเลยเล็กลงในเชิงสัมพัทธ์ เพราะสมัยเรียนทุกปีจะได้ขึ้นหน้าเว็บคณะ ได้รางวัลใหญ่ ๆ แต่จบออกมาก็ยังไม่ได้เจออะไรแบบนั้นอีกเลย คิดว่าคงต้องลองตั้งเป้าใหม่ ๆ ดูบ้าง

อีกปัญหาคือ วินัย ในการใช้ชีวิตยังต่ำอยู่ เป้าที่ตั้งไว้หลาย ๆ เลยพังเละเทะ และก็รู้สึกว่าคนเก่ง ๆ บางคนเขาเก่งได้ไม่ใช่แค่เพราะฉลาด แต่เพราะมีวินัย ซึ่งเราก็อยากมีบ้าง แต่การจะทำให้มันมีก็ไม่ใช่ง่าย ๆ เลย ถึงแม้จะพัฒนามามากกว่าสมัยเรียนเยอะก็ตาม คิดว่าปีต่อไปคงต้องพยายามขึ้นอีก จะได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันกับเขาบ้าง

สุดท้ายคือ ไม่ได้เข้าร่วม conference ต่าง ๆ เลย พอทำงานแล้วก็ขี้เกียจ ไม่อยากไปไหนหลังเลิกงาน ส-อา ก็อยากอยู่ห้องหรือไม่ก็เที่ยวกับเพื่อนพอ ซึ่งกลายเป็นพอไม่ได้ไปงานแบบนี้ เลยไม่ได้เจอคนเก่ง ๆ ไม่ได้เจอสิ่งใหม่ ๆ ในด้าน software engineer เลย อีกอย่างก็คือเป้าที่คิดไว้ว่าจะ contribute พวก opensource มากขึ้นก็ล้มเหลวสิ้นเชิง เลยตั้งว่าปีหน้าจะเข้าร่วมงานพวกนี้มากขึ้น และ contribute วงการให้มากขึ้นด้วย

สิ่งที่ทำมาแล้วรู้สึกว่าดี

สิ่งที่ทำมาตลอดคือเอาตัวเองไปอยู่กับคนเก่ง ๆ ถ้าอยากจะเก่งตามเขา ซึ่งปีนี้ก็ยังใช้ได้อยู่ พยายามติดตามว่าคนเก่ง ๆ เขาคิดอะไร ทำอะไรยังไง จะได้เข้าใจและมีแรงบันดาลใจให้ทำตามบ้าง

อีกสิ่งที่สำคัญมากคือ กล้าที่จะตัดเพื่อนที่ทำให้ปวดหัวหรือเป็นทุกข์ใจโดยไม่จำเป็น เพราะบางครั้งมันก็มีคนที่โผล่มาทำให้ปวดหัวในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง หากถามว่าตัดเพื่อนไปกี่คน ก็คงจำไม่ได้ เพราะไม่มีความจำเป็นต้องจำ บางครั้งก็แอบคิดว่าเรานี่เพื่อนน้อยแหะ แต่พิจารณาดี ๆ แล้วก็พบว่าเพื่อนที่เราคุยด้วยบ่อย ๆ เป็นเพื่อนที่เราคบแล้วมีความสุข ดังนั้นยังคงถือว่า "เพื่อนน้อยแล้วชีวิตดี ก็ดีกว่าเพื่อนเยอะแล้วมีแต่เรื่องปวดหัว"

อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้ ออกกำลังกายครับ ปีนี้ทำแล้วดีทั้งสุขภาพจิตและสุขภาพกาย ก็คงทำต่อไปเรื่อย ๆ ไม่ขาด

สุดท้าย

สุดท้ายแล้วเข้าปี 2021 ก็มีเรื่องกับเป้าหมายมากมายให้ทำ ปีนี้ก็หวังว่าคงได้เจอคนดี ๆ เพิ่มอีกเยอะ ๆ กับหวังว่าของที่อยากทำ อยากเรียนรู้คงจะมีวินัยพอให้ทำให้ครบจงได้นะ

ฝากคลิปวิดีโอถ่ายพลุวันปีใหม่ให้ดูเล่นครับ https://youtu.be/lQs8-RprtRw

ปิดท้ายด้วยภาพออฟฟิศวันสุดท้ายของปี 2020