ถ้าชีวิตเปรียบเสมือนร้านเกม เด็กเกาะเบาะก็ไม่ควรแย่งเมาส์คนอื่นมาเล่น

ถ้าชีวิตเปรียบเสมือนร้านเกม เด็กเกาะเบาะก็ไม่ควรแย่งเมาส์คนอื่นมาเล่น
Photo by Celest So / Unsplash

พวกคุณเคยมีเพื่อนที่ตัดสินใจบางอย่างไปแต่คุณมองว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ผิด หรือเป็นการตัดสินใจที่แย่และมีทางอื่นที่ดีกว่านี้ ทำนองนี้ไหมครับ ผมนาน ๆ ทีก็เจอบ้างแล้วหงุดหงิดใจทุกครั้งเวลาเห็น

วันนี้ก็เจอเรื่องราวทำนองนั้นเลยทักไปคุยกับเพื่อนอีกคน พร้อมโดนเพื่อนสวนกับมาทำนองว่า "ไม่ต้องไปเสือกเรื่องคนอื่น" หลังจากนั้นก็นั่งคิดมาเรื่อย ๆ ว่า ถ้าเราเห็นการตัดสินใจที่แย่ รู้กับตัวว่าไม่ควรเข้าเสือกหรอกนะ แต่เห็นแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าทำไมไม่ทำอีกอย่างแทน

จู่ ๆ ก็เริ่มมีความคิดอุปมาอุปมัยขึ้นมาว่า ถ้าชีวิตเปรียบเหมือนร้านเกม คนที่เรากำลังนั่งมองอยู่ก็เปรียบเป็นคนที่จ่ายเงินมานั่งเล่นเกม ส่วนเราคือเด็กเกาะเบาะที่ไปนั่งชี้โบ้ชี้เบ้ว่า "พี่ครับ ๆ ทำไมพี่ไม่เลือกอันนั้น ทำไมไม่เลือกอันนี้ ฯลฯ"

รู้กันทั่วไปว่าพวกเด็กเกาะเบาะบางทีมันก็พูดถูก บางทีมันก็พูดมั่ว ๆ บางพวกก็ชอบไปแย่งเมาส์คนเล่นอยู่มาเล่นแทน ทั้งที่คนจ่ายเงินคือคนเล่น ซึ่งไร้มารยาทมาก

ชีวิตก็เหมือนกัน เพราะเราไม่ใช่คนเสียเงิน เป็นเพียงคนนั่งมองชาวบ้าน เราจึงไม่ควรไปจ้ำจี้ว่าต้องทำแบบนั้นทำแบบนี้ ทำได้อย่างมากแค่บอกว่า "พี่เลือกอันนั้นน่าจะดีกว่านะ" เพราะสุดท้ายคนที่ต้องจ่ายคือเขาไม่ใช่เรา อีกอย่างเขาอาจจะรู้อะไรมากกว่าเราก็ได้ และบางครั้งเราก็เป็นคนจ่ายเงินเองแล้วโดนเด็กเกาะเบาะมาฉอด ก็น่าเบื่อเหมือนกัน

ดังนั้น ถ้าชีวิตเปรียบเสมือนร้านเกม เด็กเกาะเบาะแบบเรา ๆ ก็ไม่ควรแย่งเมาส์คนอื่นมาเล่น ปล่อยให้เขาตัดสินใจเอง ถ้าเขาไม่เชื่อ ก็ไปเกาะเบาะคนอื่นแทน

ป.ล. ใช้ภาพหมากรุกเพราะตอนแรกคิดถึงหมากรุก แต่ไม่ถนัดเล่น ให้เปรียบเทียบอาจจะเปรียบผิด

ป.ล.ล. บางครั้งคนเล่นก็เป็นเราเอง ที่ตัดสินใจโง่ ๆ ได้เหมือนกัน เพราะงั้นปล่อยวางซะ (บอกตัวเอง)