ทำเลสิคมาครบปีแล้ว ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
เดือนก่อนมีคนอ่านบทความเราเรื่องประสบการณ์ทำเลสิค ที่เราทำช่วงพฤศจิกายนปีที่แล้ว (2022) ทักมาถามเราว่าตอนนี้สายตาเราเป็นยังไงบ้าง ก็ตอบเขาไปยาวเหยียดเลยคิดว่าเอามาเขียนบทความด้วยจะมีประโยชน์
ก่อนอื่นขออธิบายว่า Relex เป็นการผ่าตัดปรับสายตาที่ให้แผลเล็กที่สุด ซึ่งจะเป็นคนละอย่างกับ Lasik ที่คนเรียกกัน มีวิธีการผ่าคนละแบบ แต่ในบทความนี้เราอาจจะเรียกสลับไปมาเพราะคุ้นปาก
ย้อนความไป พฤศจิกายน 2022 เราไปทำ Relex Smile มาที่โรงพยาบาลจุฬาฯ (อ่านบทความประสบการณ์ไปทำได้ที่นี่ ลิงค์) เพราะเราสายตาสั้นมาก ๆ จนถ้าถอดแว่นจะมองไม่เห็นอะไรเลย เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและความสะดวกสบายจึงตัดสินใจไปเข้ารับการผ่าตัด
กระโดดข้ามมาปัจจุบัน ณ วันที่เขียนบทความนี้ก็ผ่านมา 11 เดือนแล้วหลังการผ่าตัด จึงจะมาเล่าว่าเป็นอย่างไรบ้าง
การมองเห็นหลังผ่าครบ 11 เดือน
การมองเห็นต่าง ๆ ชัดเจนมาก ชัดกว่าตอนใส่แว่นอีกเพราะสมัยเราใส่แว่น แว่นไม่สามารถปรับสายตาเราให้เท่ากับคนปกติได้เนื่องจากเราสายตาสั้นเกิน ถ้าใส่เลนส์ที่พอดีจะปวดหัว
มองไกล ๆ เช่นวิว ขอบฟ้า เมือง สวยงามมากเพราะรายละเอียดคมชัดแบบสุด ๆ ถึงขนาดที่เราพูดขำ ๆ ว่า ทำเลสิกมาแล้วข้อเสียคือภาพถ่ายในกล้องไม่เคยสวยเท่าตาเห็นอีกเลย
การมองใกล้กลายสภาพเป็นคนปกติ ปกติแล้วคนสายตาสั้นมองไกลไม่ได้แต่มองใกล้ดีมาก สมัยก่อนเราสามารถเอามือจ่อหน้าระยะประชิดแล้วมองเห็นรูขุมขนเล็ก ๆ ได้หมด ตอนนี้ไม่สามารถทำได้เพราะมองระยะใกล้ประชิดไม่ได้ ต้องใช้แว่นขยาย หมอบอกว่านั่นคือระดับสายตาคนปกติที่ทำได้ซึ่งเราไม่เคยรู้มาก่อนเลย
การมองแสงไฟจะมีคล้ายออร่าลอยอยู่รอบดวงไฟ ไม่เยอะมากแต่ก็สังเกตได้ ผ่านมาสักระยะก็ลืมไปแล้วว่าตอนก่อนผ่าตัดเป็นไงเพราะใส่แว่น แสงก็กระเจิงเพราะเลนส์แว่นอยู่ดี
การมองในที่มืด แสงน้อย ยากขึ้นนิดหน่อย เหมือนสมองปรับตัวยังไม่ได้เพราะมันไม่ได้มัว แต่ความรู้สึกคือภาพมันเบลอ ๆ ตลอด ซึ่งมีปัญหากับการมองพื้นที่แสงน้อยกลางแดดด้วย เช่น ใต้เงา ถ้าเจอป้ายในร่มเงาก็จะมองลำบากหน่อย
ตาแห้งช่วงแรกหลังผ่าค่อยข้างแห้งเลย ต้องหยอดน้ำตาเทียมทุกวัน ตอนนี้ตาไม่ค่อยแห้งแล้ว บางทีก็ลืมหยอดน้ำตาเทียมไปเลย ถ้าไม่ได้จ้องจอคอมหรือมือถือระยะนาน ๆ ซึ่งนานของเราคือวันละ 10-12 ชั่วโมงก็ไม่มีปัญหา วันไหนที่จ้องหน้าจอขนาดนั้น ตาจะล้าและเหมือนมองไกล ๆ ไม่ชัด ต้องพักการใช้สักวันนึงถึงจะกลับมาเป็นปกติ ได้ปรึกษากับหมอแล้ว หมอบอกว่าปกติ
มีเรื่องเศร้านิด ๆ ปนเรื่องดีคือตาข้างซ้ายแก้ได้ไม่ครบ ตาข้างซ้ายที่สั้นกว่าข้างขวาตอนนี้ติดเอียงและสั้นเล็กน้อยเนื่องจากเอาออกไม่หมด หมออนุญาติให้แก้ไขได้ไม่เสียเงิน (อยู่ในแพกเกจ) แต่ตัดสินใจไม่แก้เพราะจะทำให้แผลใหญ่ขึ้นเนื่องจากต้องแก้ด้วยวิธีอื่นที่ไม่ใช่ Relex Smile
สั้นเอียงเล็กน้อยไม่ได้ทำให้ใช้ชีวิตประจำวันลำบากแต่ก็สังเกตได้ถ้าปิดตาข้างขวามองสิ่งของรอบตัว
ข้อดีที่หมอบอกหรือหมอปลอบใจไม่รู้ คือ เราสามารถมองระยะสั้นได้มากกว่าคนปกติเพราะตาซ้ายที่สั้นเล็กน้อย ทำให้เรามองสั้นได้มากกว่าคนทั่วไปแต่มองไกลได้ไม่มีปัญหา ค่าสายตาที่สั้นและเอียงเล็กน้อยสุดท้ายสมองจะรวมภาพกับตาข้างขวาแล้วปรับให้สมองรับภาพปกติได้เอง หมอบอก
การใช้ชีวิตหลังเลิกใส่แว่น
หลังผ่าตัดเสร็จ เราไปเดินป่าก็ชิวมากเพราะไม่ต้องคอยเช็ดแว่นให้ลำบากเวลาเจอหมอกหรือเหงื่อไหล แต่ก่อนเจอฝนหรือไอน้ำก็มองอะไรไม่เห็นแล้วเพราะเช็ดแว่นไปก็เหลือคราบน้ำ จะถอดแว่นเดินก็ทำไม่ได้ ตอนนี้ได้มองเห็นวิวทิวเขาแบบที่เพื่อนและคนอื่นเห็นกัน
เราเล่นกีฬาต่าง ๆ ง่ายขึ้น หลังผ่าตัดไม่กี่เดือนเราไปลงเรียนกีฬาฟันดาบสากล เราต้องใส่ชุดเกราะและหมวกด้วยซึ่งถ้ามีแว่นก็จะลำบากมาก ๆ เวลาใส่หมวกหรืออาจจะเล่นไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
เพื่อนทักว่าหน้าเด็กขึ้น 55555 ไม่รู้เกี่ยวไหม
บทสรุป
ผ่านมาจะครบปี ตอนนี้มีความสุขกับการตัดสินใจ ไม่ต้องกังวลเวลาไปเที่ยวแล้วกลัวแว่นหายหาทางกลับบ้านไม่ได้ ถ้าถามว่าคุ้มไหมที่ทำ เราขอตอบว่าคุ้ม ย้อนกลับไปตัดสินใจอีกรอบก็จะเลือกทำเหมือนเดิมเพราะใช้ชีวิตง่ายขึ้นมาก